การฉีดยารักษาเส้นเลือดขอดช่วยอะไรได้บ้าง
วิธีป้องกันเส้นเลือดขอด ได้แก่ การออกกำลังกายโดยเฉพาะการเดิน หลีกเลี่ยงการนั่ง หรือยืนนานๆ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ปรับเปลี่ยนท่านอน ด้วยการนำหมอนมาหนุนใต้ขาตั้งแต่ข้อพับถึงปลายเท้า
เส้นเลือดขอด รักษาอย่างไร เปรียบเทียบวิธีการรักษาและวิธีป้องกัน
อาการของผู้ที่มีเส้นเลือดขอดที่สังเกตได้คือ อาการปวด หน่วง ชา และบวมบริเวณที่เป็นเส้นเลือดขอด เส้นเลือดขอดในบางรายจะเห็นชัด แต่ในบางรายก็จะยังมองไม่เห็น แต่จะมีอาการปวด และเป็นตะคริวได้บ่อย ๆ ในตอนกลางคืน ซึ่งเพศหญิงจะมีแนวโน้มเป็นเส้นเลือดขอดได้มากกว่าเพศชาย โดยจำแนกได้ ดังนี้
อาชีพ อาชีพที่ต้องยืนหรือนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ หรือต้องยกของหนัก ๆ ทำให้เส้นเลือดมีเลือดคั่งมาก เช่น ทหาร ศัลยแพทย์ พยาบาลในห้องผ่าตัด ครู เป็นต้น
แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคเส้นเลือดขอดได้จากการซักประวัติอาการและการตรวจร่างกาย (โดยเฉพาะการตรวจเห็นเส้นเลือดขอดที่ขา ซึ่งก็จะเป็นตัวช่วยวินิจฉัยโรคนี้ได้ ซึ่งแพทย์จะตรวจดูเส้นเลือดขอดทั้งท่ายืนและท่านอน) โดยไม่มีความจำเป็นต้องตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม ยกเว้นในรายที่แพทย์คิดว่ามีภาวะแทรกซ้อน เช่น ผู้ป่วยมีแผลเรื้อรังที่ขา ขาบวม เคยมีประวัติการถูกยิงหรือถูกแทงที่ขา มีเส้นเลือดที่ขาข้างเดียวในขณะที่ขาอีกข้างยังปกติ มีเส้นเลือดขอดเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก มีกระดูกหักนำมาก่อนที่จะมีเส้นเลือดขอด เป็นต้น
การตั้งครรภ์ที่ทำให้ฮอร์โมนและน้ำหนักกดทับเส้นเลือดขา
ดูแลตัวเองดี ป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
การป้องกันเส้นเลือดขอดสามารถทำได้โดยการปรับพฤติกรรมและดูแลสุขภาพ เช่น ออกกำลังกาย (เดิน วิ่งเบา ๆ ปั่นจักรยาน) เพื่อส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด ควบคุมน้ำหนักเพื่อลดแรงกดดันที่ขา สวมถุงน่องที่ช่วยลดแรงดันในเส้นเลือด และใช้หมอนรองขายกขาสูงเมื่อพักผ่อน เพื่อลดการสะสมของเลือดในเส้นเลือดขา
เปรียบเทียบการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยวิธีต่าง รักษาเส้นเลือดขอด ๆ
การเลือกสถานพยาบาลและแพทย์เฉพาะทางสำหรับรักษาเส้นเลือดขอดควรคำนึงถึงประสบการณ์ของแพทย์ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษา เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการรักษา
การฉีดยารักษาเส้นเลือดขอดทำอย่างไร
กระเจี๊ยบแดง และพุทราจีน : มีสรรพคุณที่ช่วยล้างไขมันในเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ลดภาวะการเกิดเส้นเลือดขอด
สำหรับในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนร่วมด้วยดังกล่าว การส่งตรวจพิเศษจะเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยในการวางการรักษาได้อย่างถูกต้อง (การส่งตรวจพิเศษโดยทั่วไปสามารถตรวจได้ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาลประจำจังหวัด โรงพยาบาลที่เป็นสังกัดของโรงเรียนแพทย์ เป็นต้น) ซึ่งการตรวจพิเศษเพิ่มเติมนั้นมีดังนี้